OXY AIR คืออะไร?

Oxy Air คืออะไร?

Oxy Air คืออะไร?

Blog Article

เครื่องมือรักษาหลุมสิว ที่เรียกว่า Oxy Air มีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอก ความยาวเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.5 เซนติเมตร มีเข็มปลายแหลมอยู่บริเวณปลายกระบอก ใช้สำหรับสะกิดผิวหนังชั้นบน การทำงานของ  Oxy Air เป็นการปล่อยแก๊สไปที่ใต้ผิวหนัง เพื่อเลาะพังผืดให้ผิวตื้นขึ้นมา อาจทำควบคู่กับ Gentle Laser ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษา โดยการใช้  Oxy Air จะทำให้รู้สึกแสบยุบยิบอยู่บ้าง ใช้เวลารักษาประมาณ 10 – 20 นาที โดยพิจารณาจากจำนวนและระดับความลึกของหลุมสิวของผู้ป่วยแต่ละราย

สิวแบบไหนที่สามารถกลายเป็นหลุมสิวได้


ลักษณะของสิวที่สามารถกลายเป็นหลุมสิวได้มีดังต่อไปนี้ค่ะ

  • สิวหัวช้างเม็ดใหญ่ๆ (Cyst) ที่มีหนองปนเลือดอยู่ภายในหัวสิว

  • สิวอักเสบรุนแรง (Pustule) หรือสิวหัวหนอง

  • สิวที่ติดเชื้อแบคทีเรียจนลุกลามไปทั่วชั้นใต้ผิว(Nodule)






หลุมสิวแต่ละประเภท


ผู้ที่เป็นสิวอักเสบมักจะมีอาการลุกลามจนกินพื้นที่ลึกลงไปจนถึงเนื้อใน ทำให้เนื้อส่วนนั้นหายไปแล้วกลายเป็นหลุมสิวขึ้นมา หรือบางรายที่เป็นสิวธรรมดาแล้วไปบีบสิวจนทำให้กลายเป็นสิวอักเสบก็ทำให้เกิดหลุมสิวขึ้นมาได้ ซึ่งหลุมสิวสามารถแบ่งความรุนแรงได้ 3 ระดับ ดังนี้

การรักษาหลุมสิว





การรักษาหลุมสิว


ปัญหาสิว นอกจากจะสร้างอาการอักเสบและรอยแผลเป็นแล้ว บางครั้งยังทิ้งหลุมสิวให้กลุ้มใจอีกต่างหาก เพราะคนที่มีหลุมสิวจะทำให้ผิวหน้าขรุขระ ไม่เรียบเนียน ซ้ำร้ายอาจโดนล้อว่าหน้าเหมือนพื้นผิวดวงจันทร์  การมีหลุมสิวเกิดขึ้นบนใบหน้าจึงเหมือนกับฝันร้ายที่หลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะฉนั้นการทำ Air – Dissector หรือ Oxy Air  แนวทางในการรักษาหลุมสิวสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการใช้ยาทาในกรณีที่เป็นหลุมสิวในระดับ Box Scar และ Rolling Scar การฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิว การลอกผิวด้วยกรด AHA การเลาะพังผืดใต้ผิวหนัง (subcision) การยิงเลเซอร์เพื่อซ่อมแซมผิวส่วนที่สึกหรอ เช่น Fractional CO2, Fraxel Laser ,Oxy Air แต่วิธีการรักษาที่ได้ประสิทธิภาพและเห็นผลดีที่สุดคือการใช้ Oxy Air




การรักษาหลุมสิว การเลาะพังผืดใต้ผิวด้วยอากาศแรงดันสูง (Oxy Air)


นวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาแผลเป็น ร่องติดลึก รูขุมขนกว้างและกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ เป็นอีกหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ อุปกรณ์ชนิดนี้มีชื่อว่า Intradermal Air Dissector แปลเป็นไทยว่า เครื่องเลาะแยกชั้นผิวด้วยอากาศ แต่ความเป็นจริงมันก็คือ อุปกรณ์ช่วยเลาะพังผืดใต้ผิวด้วยอากาศแรงดันสูงนั้นเอง

เรามาทำความเข้าใจถึงกลไกลการซ่อมแซมตัวเองของผิวหนัง และการเกิดแผลเป็นของผิวหนังกันก่อนดังนี้ ธรรมชาติของผิวหนังมนุษย์ (ไม่นับรวมถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง) ประกอบด้วยผิวชั้นบนบางๆ ที่เรียกหนังกำพร้า (Epidermis) และด้านล่างซึ่งหนากว่า คือชั้นหนังแท้ (Dermis) โดยประกอบได้ด้วนเซลล์ที่มีชีวิตหลายชนิด มีหลอดเลือดและเส้นประสาทขนาดเล็ก ต่อมเหงื่อ มีรูขุมขน หรือที่เรียกว่า Adnexal Structure  เซลล์ในชั้นนี้ก็จะสามารถแบ่งตัวมาซ่อมแซมและทดแทนเซลล์ที่เสียไป ดังนั้น การเกิดแผลเป็นก็จะไม่มี แผลก็จะหายเป็นผิวปกตินั้นเอง

รักษาหลุมสิว Oxy Air





ผลลัพท์จากการรักษา รักษาหลุมสิว Oxy Air



  1. การรักษาหลุมสิว Oxy Air ใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 3 – 5 ครั้ง ถึงจะเห็นผล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของการเกิดสิวอักเสบ

  2. หากผู้ป่วยเพิ่งหายจากการเป็นสิวอักเสบแล้วทิ้งรอยหลุมสิวในระดับ Box Scar หรือ Rolling Scar ผลลัพทธ์จากการรักษาก็จะใช้เวลาประมาณ 3 – 4 สัปดาห์

  3. หากผู้ป่วยมีรอยหลุมสิวอยู่ในระดับ Ice Pick Scar การรักษาอาจต้องใช้เวลานานกว่าระดับอื่นๆ เห็นผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งต้องทำควบคู่กับการป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวขึ้นอีกครั้งอย่างสม่ำเสมอ






บริเวณที่สามารถรักษาหลุมสิวด้วย Oxy Air ได้



  • สามารถใช้งานเลเซอร์ได้เกือบทุกที่โดยจะเน้นเฉพาะจุดปัญหาหรือทั้งบริเวณก็ได้ เช่น ทั่วใบหน้า ลำคอ เข่า ข้อศอก มือ แขน ก้น หน้าท้อง รอยแตกลาย เป็นต้น






รักษาหลุมสิวด้วย Oxy Air เห็นผลเมื่อใด



  • ผลการรักษาโดยส่วนใหญ่จะเห็นผลชัดเจนประมาณ 4-6 สัปดาห์

  • ในช่วง 1-2 วันแรกหลังทำผิวจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูหรือแดง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

  • และในช่วง 7 วันแรกผิวจะเริ่มตกสะเก็ดและชั้นผิวลอก

  • ข้อควรระวังคือไม่ควรลอกผิวออกด้วยตัวเอง เพราะจะทำให้กระบวนการกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวใหม่หรือสร้างชั้นคอลลาเจนไม่สมบูรณ์ ในบางกรณีอาจทำให้ผิวมีสีที่เข้มขึ้นได้






ผลข้างเคียงจาก การรักษาหลุมสิว



  • การรักษาหลุมสิวด้วย Oxy Air ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายร้ายแรง

  • แต่ผู้ป่วยในรายที่เป็นแผลเป็นบริเวณรอบดวงตา อาจทำให้ตาบวมได้ เนื่องจากแก๊สที่ฉีดเข้าไปทำปฎิกิริยากับแผลเป็น

  • อาการตาบวมจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 3 – 5 วัน หากผู้ที่เป็นสิวดูแลผิวหน้าให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้เป็นสิวอักเสบ

  • ไม่ไปแกะหรือบีบสิว ก็ช่วยลดการเกิดหลุมสิวได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีหลุมสิวเกิดขึ้นก็ไม่ต้องกังวลใจว่าผิวหน้าจะกลายเป็นดวงจันทร์อีกต่อไป เพราะยังมีวิธีการรักษาหลุมสิวที่ช่วยกู้ผิวหน้าให้กลับมาเรียบเนียนได้อีกครั้ง

Report this page